top of page
Writer's pictureChanatat Vanichthamrongtham

เช็ควัตถุประสงค์ให้ดีก่อนรีไฟแนนซ์บ้าน❓

การที่เราจะมีที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโดเป็นของตัวเองสักหลัง สำหรับคนธรรมดาทั่วไปนั้น คงเป็นเรื่องยากที่เราจะซื้อด้วยเงินสดเพราะเป็นเงินที่ก้อนใหญ่มาก ส่วนใหญ่ก็จะต้องขอกู้ยืมเงินกับธนาคารหรือสถาบันการเงินมาซื้อ โดยมีการตกลงเงื่อนไขการกู้ยืมและทำสัญญากัน ไม่ว่าจะเป็นวงเงิน ระยะเวลา อัตราดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ ค่างวดผ่อนชำระ เป็นต้น ซึ่งสถาบันการเงินส่วนใหญ่มักกำหนดระยะเวลา อัตราดอกเบี้ยโปรโมชั่น หรือ เบี้ยปรับไว้ในช่วง 3 ปีแรก เมื่อเราผ่อนชำระมาได้ระยะเวลาหนึ่งจนกำลังจะผ่อนครบ 3 ปี หรือบางคนอาจจะเลย 3 ปีไปแล้ว ดังนั้นก่อนรีไฟแนนซ์ควรถามตัวเองว่าต้องการทำไปเพื่ออะไร



3 วัตถุประสงค์ที่สำคัญหากคิดจะรีไฟแนนซ์ มีดังนี้

1.ลดดอกเบี้ยจ่ายลง ... เมื่อเราได้กู้เงินเพื่อซื้อบ้านหรือที่อยู่อาศัยและผ่อนชำระมาได้สักระยะแล้ว เราควรมีการตรวจสอบโปรโมชั่นของแต่ละสถาบันการเงินต่างๆบ้าง เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับสถาบันการเงินเดิมเพื่อให้สามารถประหยัดดอกเบี้ยลง ซึ่งส่วนใหญ่สถาบันการเงินมักกำหนดเงื่อนไข หากชำระปิดบัญชีก่อนกำหนดภายใน 3 ปี อาจทำให้มีค่าปรับได้ ดังนั้นเวลาที่เราจะรีไฟแนนซ์เพื่อไปสถาบันการเงินแห่งใหม่ อย่าลืมคิดถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ในการรีไฟแนนซ์ เช่น ค่าประเมินหลักประกัน ค่าจดจำนอง ค่าประกันภัย และอื่นๆ เมื่อรวมกันแล้วค่าใช้จ่ายต่างๆ ควรน้อยกว่าดอกเบี้ยที่ประหยัดได้พอสมควร อีกทั้งเรายังต้องพิจารณาอีกว่าคุ้มค่ามั้ยกับการเสียเวลาในการดำเนินการ เพราะบางทีเราอาจต่อรองกับสถาบันการเงินเดิมขอลดดอกเบี้ยลงได้

2.ลดยอดผ่อนชำระรายเดือน ... แน่นอนว่าหากเราคิดจะรีไฟแนนซ์บ้าน หมายถึงเราได้ผ่อนมาแล้วระยะหนึ่งอย่างน้อยก็ 3 ปี ยอดหนี้ก็น่าจะลดลงไปบ้างแล้วมากน้อยตามที่เราได้ชำระค่างวดหรือโปะเงินก้อนเข้ามา ซึ่งเมื่อเรารีไฟแนนซ์ไปสถาบันการเงินแห่งใหม่เฉพาะยอดหนี้คงเหลือ อีกทั้งได้อัตราดอกเบี้ยโปรโมชั่น เมื่อคำนวณหาเงินผ่อนชำระก็จะทำให้ยอดผ่อนชำระรายเดือนลดลง ซึ่งหากยิ่งได้โปรโมชั่นผ่อนชำระแบบขั้นบันได ก็ยิ่งทำให้ค่างวดรายเดือนน้อยลงอีก แต่คงไม่ต่ำกว่าดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายรายเดือน

3.ได้วงเงินมาใช้จ่ายเพิ่ม ... ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้าน หรือซื้อที่อยู่อาศัย หลังจากที่ผ่อนชำระมากับสถาบันการเงินมาได้สักระยะหนึ่ง อาจจะมีการเอาเงินก้อนมาชำระโปะจากเงินโบนัส จนทำให้ยอดหนี้คงเหลือน้อยลงจากวันที่เรากู้มาก จนวันหนึ่งเมื่อเราอาจมีความต้องการที่จะใช้เงิน การที่จะขอกู้กับสถาบันการเงินเดิมถ้าทำได้ก็ยิ่งเป็นการดีแต่ส่วนใหญ่จะมีเงื่อนไขที่ยุ่งยาก ทางออกที่ดีอาจจะเป็นการที่เรารีไฟแนนซ์ไปสถาบันการเงินอื่น ซึ่งจะได้อัตราดอกเบี้ยโปรโมชั่น แถมได้วงเงินเพิ่มเอาไปใช้จ่ายได้ตามที่ต้องการ โดยที่อาจจะผ่อนชำระเพิ่มขึ้นไม่เท่าไหร่


ก่อนที่เราจะรีไฟแนนซ์ ควรมีวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนก่อน ว่าต้องการรีไฟแนนซ์ไปเพื่ออะไร จะได้ตรงกับความต้องการ ไม่เสียแรงและเวลาโดยเปล่าประโยชน์ บางครั้งการที่เราไม่รีไฟแนนซ์หรืออยู่เฉยๆก็อาจดีกว่าก็ได้นะครับ



5 views0 comments

Comments


Post: Blog2_Post
bottom of page